นารายณ์พลิกแผ่นดิน
นารายณ์พลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต พลิกชะตา สู่อำนาจ วาสนา บารมี
พระนารายณ์นั้นถือเป็นองค์เทพสูงสุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไวษณพนิกายถือเป็นผู้ที่มีฤทธิ์เดชมีอำนาจมีความเก่งกล้าสามารถเป็นอย่างมากสามารถอวตารหรือแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ตามแต่วาระที่ต้องการ ส่วนในทางพุทธนั้น คำว่า “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ถือเป็นวิชาที่ใช้ลงอักขระเลขยันต์เช่นยันต์นารายณ์พลิกแผ่นดิน สวดท่องเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ คะ พุท ปัน ทู ทัม วะคะ ใช้พลิกชีวิต พลิกชะตา จากร้ายกลายเป็นดี ตามแต่ใจปรารถนามาแต่ครั้งโบราณ ดังนั้นที่มาของพระนาม “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ในทางพุทธนั้นจึงถือว่ายิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในพราหมณ์-ฮินดูนั้นต้องขอกล่าวถึงตอนนารายณ์อวตารเป็น วราหะ เป็นมนุษย์ที่มีศีรษะเป็นหมูป่าเพื่อสังหารหิรันตยักษ์ที่ม้วนเอาแผ่นดินไป หิรันตยักษ์เป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์เดชมากทั้งยังข่มเหงเหล่ามนุษย์โลกมากมาย พระนารายณ์จึงอวตารเป็นวราหะครึ่งคนครึ่งหมูป่าไล่ขวดหิรันตยักษ์แล้วสังหารด้วยการฟาดด้วยกระบอง ส่วนมหากาพย์รามเกียรติ์ หิรันตยักษ์คือพญายักษ์ที่บำเพ็ญเพียรด้วยการ บูชาพระอิศวร ผู้สถิต ณ เขาไกรลาส จนได้รับพรให้มีฤทธิ์เดชมากมายทั้งมนุษย์และเทวดาใครฆ่าก็จะไม่ตายสามารถม้วนแผ่นดินได้ ด้วยความกำเริบและคิดว่าตนนั้นมีฤทธิ์มากไม่มีผู้ใดทัดเทียม แม้แต่ฤาษี นักพรต เทวดา ต่างก็พากันเกรงกลัวต่อหิรันตยักษ์ เพื่อแสดงฤทธิ์เดชให้ทั้งสามโลกได้รับรู้หิรันตยักษ์จึงทำการม้วนแผ่นดินแล้วหนีบไว้กับตัวลงไปยังเมืองบาดาลเพื่อให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายเดือดร้อนกันไปทั่ว ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องเสด็จลงไปยังเมืองบาดาล เห็นหิรันตยักษ์ม้วนแผ่นดินหนีบไว้ ก็แปลงร่างเป็นพญาหมูป่าเข้าไล่ขวิดต่อสู้กับหิรันตยักษ์ ในที่สุดพญาหมูป่าก็ไล่ขวิดหิรันตยักษ์ด้วยเขี้ยวเพชรจนตัวขาดหัวขาดสิ้นใจตายลงทันที แล้วพญาหมูป่าหรือพระนารายณ์อวตารก็พลิกเอาผืนแผ่นดินคืนสู่ความสุขสงบร่มเย็นแก่มนุษย์และเทวดาดังเดิม
จากตำนานเรื่องราวแห่งความเชื่อความศรัทธาขององค์พระนารายณ์ผู้เป็นใหญ่ด้วยฤทธิ์เดชและอำนาจเหนือกว่าผู้ใดในสามโลกสู่ผลงานประติมากรรมอันทรงคุณค่าที่มีศิลปะอันงดงามสุดอลังการ ด้วยพระนามอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ด้วยการรังสรรค์ผลงานด้านจิตรกรรมและประติมากรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งองค์นารายณ์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลด้วยรูปแบบศิลปะไทยลักษณะทรงเครื่องเต็มยศมีพระพักตร์ที่สงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยพลังแห่งฤทธิ์เดชและอำนาจแต่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา พระหัตถ์ซ้ายบนทรงสังข์สัญลักษณ์ของการมีชื่อเสียงคุณธรรมความดีปรากฏไปทั้งสามโลก พระหัตถ์ขวาบนทรงจักรสัญลักษณ์แห่งการเคลื่อนไปข้างหน้าขจัดปัญหาอุปสรรคทั้งปวง พระหัตถ์ขวาล่างทรงกระบองสัญลักษณ์ของการทำลายสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย พระหัตถ์ขวาล่างทรงศรนารายณ์สัญลักษณ์แห่งการพุ่งตรงไปยังเป้าหมายสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ส่วนบริเวณฐานเป็นฐานทรงกลมบัวคว่ำบัวหงาย ฐานชั้นล่างเป็นลวดลายน้ำ ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ของหมูป่าเขี้ยวโง้งยาวอันเป็นที่มาของปางวราหะ “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ดังนั้นผลงานประติมากรรมแห่งศรัทธาครั้งนี้ จึงเป็นผลงานอันเกิดขึ้นจากการประยุกต์เรื่องราวแห่งศรัทธาอันจะนำมาเป็นเครื่องเจริญสติแก่ผู้ที่ได้มีไว้ในครอบครองและเพื่อเป็นสมบัติของวงศ์ตระกูลสืบต่อไป โดยผลงานดังกล่าวนี้เป็นเรื่องราวอันมีความต่อเนื่องจากผลงาน “นารายณ์แปลงรูป” มหาเทพองค์สูงสุดตามลัทธิไวษณพนิกายที่ทาง ARTMULET นั้นได้เคยจัดสร้างไว้แล้ว จากแนวคิดของ อ.ธนทัศน์ ทองเนียม ประธานดำเนินงานแห่ง ARTMULET และ ดร.ทรงพล เขมะบุลกุล ที่ปรึกษาโครงการ ผ่านจิตรกรเอก อ.เกรียงกมล นาคบางแก้ว และประติมากร อ.สุชาติ แซ่จิว สองศิลปินผู้รังสรรค์ปั้นแต่งผลงานในครั้งนี้ได้อย่างงดงามสุดอลังการน่าอัศจรรย์ทั้งรายละเอียดที่ดูอ่อนช้อยงดงามพริ้วไหวแต่ทรงพลังอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย ทั้งหมดนี้เพื่อมอบไว้แด่ผู้ที่มีจิตศรัทธาในการร่วมสร้างที่พักและสถานปฏิบัติธรรม วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทองและฝากไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป