คเนศวรมหาเทวะ ปัญญาบารมี ขนาดสูง 3 นิ้ว
คเนศวรมหาเทวะ ปัญญาบารมี ขจัดอุปสรรคปัญหานำพาผู้ศรัทธาสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ งดงามเหนือคำบรรยาย
“คเนศวรมหาเทวะ” หรือผู้คนส่วนใหญ่มักเรียก พระพิฆเนศ เป็นบุตรขององค์ศิวะมหาเทพหรือพระอิศวร มหาเทพผู้เป็นใหญ่สูงสุดตามศาสนาฮินดูหรือพราหมณ์ลัทธิไศวะนิกาย และพระแม่อุมาเทวี พระมารดา เป็นอนุชาของพระขันธกุมาร ครั้งหนึ่งพระแม่อุมาเทวี ได้นำเอาผลมะม่วงมาถวายแด่องค์พระศิวะมหาเทพผลหนึ่ง แต่ปรากฏว่าลูกทั้งสองคือ พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร ต่างก็ต้องการที่จะเสวยมะม่วงผลนี้ด้วยเช่นกัน องค์ศิวะมหาเทพจึงได้ถือเอาโอกาสนี้ทดสอบภูมิปัญญาของลูกทั้งสอง โดยได้กล่าวขึ้นว่าเจ้าทั้งสองหากแม้นใครสามารถเดินทางรอบโลกได้ถึงเจ็ดรอบและกลับสู่วิมานแห่งนี้ได้ก่อนผู้นั้นจึงจะได้เป็นเจ้าของมะม่วงผลนี้ ฝ่ายพระขันธกุมารเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่รอช้า รีบทรงนกยูงพาหนะคู่กายตระเวนรอบโลกทันที ฝ่ายพระพิฆเนศแทนที่จะเอาอย่าง กลับเดินประทักษิณารอบองค์พระศิวะมหาเทพผู้เป็นบิดาและพระแม่อุมาผู้เป็นมารดาของพระองค์จนครบเจ็ดรอบ แล้วจึงกล่าวขึ้นว่า..."ข้าแต่พระบิดา พระองค์คือจักรวาล และจักรวาลคือพระองค์ พระองค์ผู้สร้างโลก พระองค์ทั้งสองทรงเป็นบิดาและมารดาจึงเปรียบได้ดังเป็นโลกแห่งข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทำประทักษิณาต่อพระองค์ทั้งสองเจ็ดรอบ ถือว่าได้กุศลเท่ากับเดินทางรอบโลกเจ็ดรอบ" องค์ศิวะมหาเทพได้ยินเช่นนั้นก็มีความยินดีในคำตอบเป็นอย่างยิ่งและกล่าวชื่นชมในสติปัญญาขององค์พระพิฆเนศว่า "เจ้าเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมและมีสติปัญญาเป็นที่สุด สิ่งที่เจ้าได้กล่าวมานั้นเป็นจริงทั้งสิ้น ถ้าผู้ใดได้มีปัญญาเป็นคุณสมบัติติดตัว แม้เมื่อโชคร้ายมาถึง ความโชคร้ายนั้นย่อมถูกกำจัดสิ้นด้วยปัญญา" และจึงได้มอบมะม่วงผลนั้นให้กับองค์พระพิฆเนศในทันที
จากตำนานแห่งความศรัทธาสู่การรังสรรค์ผลงานด้านจิตรกรรมและประติมากรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านองค์คเนศวรมหาเทวะในลักษณะก้าวเดินรอบโลกขณะที่พระพักตร์ดูมีความสุขและกำลังใช้งวงดูดขนมโมทกะ ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือถ้วยขนมโมทกะที่พระองค์ทรงโปรดปรานเปรียบดังความสุขความอุดมสมบูรณ์แห่งชีวิต พระหัตถ์ขวาถืองาและผลมะม่วงเปรียบดังการมีสติปัญญาอันแหลมคมสามารถแทงทะลุปัญหานำพาสู่ความสำเร็จทั้งปวงมาสู่ตน พระหัตถ์ซ้ายด้านบนถือเชือกบ่วงสำหรับคล้องใจผู้คนทั้งหลายให้เป็นที่รักที่เชื่อถือและศรัทธา พระหัตถ์ขวาบนถือขวานอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาทั้งหลายให้หมดสิ้นไป พระรัศมีด้านบนมีความโชติช่วงสว่างไสวและแหลมคมแทงทะลุปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายได้หมดสิ้นพระรัศมีด้านหลังตรงกลางเป็นตัวอักขระโอมอันศักดิ์สิทธิ์เป็นคำบูชามหาเทพในที่นี้เปรียบดังองค์ศิวะมหาเทพอันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลล้อมรอบด้วยเส้นประทักษิณา ถัดลงมาเป็นพระนามแห่งองค์คเนศวรมหาเทวะ รายล้อมด้วยลวดลายแห่งอากาศธาตุอันเป็นสุญญตาคือความว่างอันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาบารมี สำหรับด้านล่างที่เป็นส่วนของฐานนั้นชั้นบนประกอบด้วยดาวโลกที่มีหนูมุสิกะอันเป็นผู้ศรัทธาในองค์คเนศวรมหาเทวะกำลังนั่งขบเคี้ยวขนมโมทกะที่พระองค์ทรงประทานให้ดุจดังผู้คนทั้งหลายที่มีศรัทธาต่อองค์คเนศวรมหาเทวะจะได้รับความสุขสมบูรณ์บนพื้นโลกใบนี้ บริเวณรอบโลกมีเปลวรัศมีแห่งอากาศธาตุรายล้อมอยู่รอบด้านเปรียบดังสุญญตาคือความว่างอันนำมาสู่ปัญญาบารมี รอบฐานประกอบด้วยดวงดาวนพเคราะห์ทั้งหลายตามหลักโหราศาสตร์ ประกอบด้วยดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ราหู เกตุ และ มฤตยู อันหมายถึงการหนุนชะตาเสริมบารมี ขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้หมดสิ้นนำพาความสำเร็จมาสู่ผู้ศรัทธาในทุกดวงชะตาราศีเกิด
โดยผลงานดังกล่าวนี้สืบเนื่องจากแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารงานพุทธศิลป์และเทวศิลป์อย่าง อ.ธนทัศน์ ทองเนียม ประธานดำเนินงานและ ดร.ทรงพล เขมะบุลกุล ที่ปรึกษาโครงการแห่ง ARTMULET ผ่านจิตรกรเอก อ.เกรียงกมล นาคบางแก้ว และประติมากรมากความสามารถ อ.กฤษณะ นาพูลผล โดยศิลปินทั้งสองท่านสามารถรังสรรค์ปั้นแต่งผลงานในครั้งนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยลีลาเส้นสายที่พลิ้วไหวการย่างก้าวที่ต่อเนื่องลงตัวเหนือคำบรรยาย เหมาะสำหรับมีไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าสืบต่อไปยังลูกหลานและเพื่อฝากไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป