คเนศวรมหาเทวะ ปัญญาบารมี
คเนศวรมหาเทวะ ปางปัญญาบารมี ขจัดอุปสรรคปัญหานำพาผู้ศรัทธาสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ งดงามอลังการเหนือคำบรรยาย
การเดินทางรอบโลกและจักรวาลเพื่อผลมะม่วง ครั้งหนึ่งพระแม่อุมา มารดาแห่งพระพิฆเนศวรและพระขันธกุมาร ได้นำเอาผลมะม่วงมาถวายแด่องค์พระศิวะมหาเทพผลหนึ่ง ปรากฏว่าลูกทั้งสองคือ พระพิฆเนศวร และ พระขันธกุมาร ต่างก็อยากจะเสวยมะม่วงผลนี้ด้วยกันทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้ องค์ศิวะมหาเทพ อยากทดสอบว่าลูกทั้งสองนี้ใครจะมีสติปัญญาเหนือกว่ากัน จึงได้กล่าวขึ้นว่า ใครก็ตามหากแม้นเดินทางรอบโลกได้ถึงเจ็ดรอบและกลับสู่วิมานแห่งนี้ได้ก่อนผู้นั้นจึงจะได้ผลมะม่วงนี้ ฝ่ายพระขันธกุมารเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่รอช้า รีบทรงนกยูงตระเวนรอบโลกทันที ฝ่ายพระพิฆเนศแทนที่จะเอาอย่าง กลับเดินประทักษิณรอบองค์พระศิวะมหาเทพผู้เป็นบิดาและพระแม่อุมาผู้เป็นมารดาของพระองค์จนครบเจ็ดรอบ แล้วจึงกล่าวขึ้นว่า...."ข้าแต่พระบิดา พระองค์คือจักรวาล และจักรวาลคือพระองค์ พระองค์ผู้สร้างโลก พระองค์ทั้งสองทรงเป็นบิดาและมารดาแห่งข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทำประทักษิณต่อพระองค์ทั้งสองเจ็ดรอบ ถือว่าได้กุศลเท่ากับเดินทางรอบโลกเจ็ดรอบ" องค์ศิวะมหาเทพมีความยินดีในคำตอบเป็นอย่างยิ่งและกล่าวชื่นชมในสติปัญญาขององค์พระพิฆเนศวรว่า "เจ้าเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมและมีสติปัญญาเป็นที่สุด สิ่งที่เจ้าได้กล่าวมานั้นเป็นจริงทั้งสิ้น ถ้าผู้ใดได้มีปัญญาเป็นคุณสมบัติติดตัว แม้เมื่อโชคร้ายมาถึงเขาความโชคร้ายนั้นย่อมถูกกำจัดสิ้นด้วยปัญญา" แล้วจึงได้มอบผลมะม่วงนั้นให้กับองค์พระพิฆเนศวรในทันที
จากตำนานแห่งความศรัทธาสู่การรังสรรค์ผลงานด้านจิตกรรมและประติมากรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านองค์คเนศวรมหาเทวะในลักษณะก้าวเดินรอบโลกขณะที่พระพักตร์กำลังมีความสุขเมื่อกำลังใช้งวงถือขนมโมทะกะและพระหัตถ์ถือถ้วยขนมโมทะกะที่พระองค์ทรงโปรดปรานเปรียบดังความสุขความอุดมสมบูรณ์แห่งชีวิตพระหัตถ์ขวาถืองาและผลมะม่วงเปรียบดังสติปัญญาอันแหลมคมนำพาสู่ความสำเร็จทั้งปวง พระหัตถ์ซ้ายด้านบนถือเชือกบ่วงสำหรับคล้องใจผู้คนทั้งหลายให้เป็นที่รักที่เชื่อถือและศรัทธา พระหัตถ์ขวาบนถือขวานศักดิ์สิทธิ์สำหรับฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป พระรัศมีด้านบนมีความโชติช่วงสว่างไสวและแหลมคมแทงทะลุปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายได้หมดสิ้นพระรัศมีด้านหลังตรงกลางเป็นตัวอักขระโอมอันศักดิ์สิทธิ์เป็นคำบูชามหาเทพในที่นี้เปรียบดังองค์ศิวะมหาเทพอันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลล้อมรอบด้วยเส้นประทักษิณถัดลงมาเป็นพระนามแห่งองค์ คเนศวรมหาเทวะ รายล้อมด้วยลวดลายแห่งอากาศธาตุอันสุญญตาคือความว่างอันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาบารมี สำหรับด้านล่างที่เป็นส่วนของฐานนั้นชั้นบนประกอบด้วยดาวโลกที่มีหนู มุสิกะอันเป็นผู้ศรัทธาในองค์คเนศวรมหาเทวะกำลังนั่งกินขนมโมทะกะที่พระองค์ทรงประทานให้ดุจดังผู้คนทั้งหลายที่มีศรัทธาต่อองค์คเนศวรมหาเทวะจะได้รับความสุขสมบูรณ์บนพื้นโลกใบนี้ บริเวณรอบโลกมีเปลวรัศมีแห่งอากาศธาตุทรายล้อมอยู่รอบด้านเปรียบดังสุญญตาคือความว่างอันนำมาสู่ปัญญาบารมี รอบฐานประกอบด้วยดวงดาวนพเคราะห์ทั้งหลายตามหลักโหราศาสตร์ ประกอบ ดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ราหู เกตุ และ มฤตยู อันหมายถึงการหนุนชะตาเสริมบารมี ขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้หมดสิ้นนำพาความสำเร็จมาสู่ผู้ศรัทธาในทุกดวงชะตาราศีเกิด
โดยผลงานดังกล่าวนี้สืบเนื่องจากแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารงานพุทธศิลป์อย่าง อ.ธนทัศน์ ทองเนียม และ ดร.ทรงพล เขมะบุลกุล ที่ปรึกษาโครงการ แห่ง Artmulet ผ่านจิตรกรเอก อ.เกรียงกมล นาคบางแก้วและประติมากรดัง อ.กฤษณะ นาพูนผล สองศิลปินดาวรุ่งที่กำลังมาแรง โดยสามารถรังสรรค์ปั้นแต่งผลงานในครั้งนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์เส้นสายลีลาที่พลิ้วไหวการย่างก้าวที่ต่อเนื่องลงตัวเหนือสุดแห่งคำบรรยาย